วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560



ขนมรังไร...

ขนมไทยมีลักษณะสวยงามและได้รับการกล่าวขานมานานดังลักษณะรูปร่างความประณีต และ
กลิ่น หอมของขนมนั้น ได้รับการเปรียบเปรยจากลักษณะรูปร่างที่พบเห็นเหมือนดังขนมเรไร หรือรังไรที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงพระราชนิพนธ์ถึงขนมรังไรไว้ใน
กาพย์เห่เรื่องชมเครื่องคาวหวานว่า


ขนมครกชาววัง...

 เป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่ง ทำจากแป้งน้ำตาลและกะทิ แล้วเทลงบนเตาหลุม เวลาจะรับประทานต้องแคะออกมา เป็นแผ่นวงกลม แล้วมักวางประกบกันตอนรับประทาน เป็นขนมของไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ นอกจากนี้ยังพบในพม่า ลาว และอินโดนีเซีย โดยชาวอินโดนีเซียเรียกว่าเซอราบี (serabi)

ขนมลูกชุบ...


   ลูกชุบ เป็นขนมประจำถิ่นของชนชาติโปรตุเกส ในแคว้น อัลการวี  (Aigaeve) ที่เรียกว่า Massapa’es โดยจะใช้เม็ดอัลมอนด์เป็นส่วนผสมหลัก กวนกับน้ำตาลและน้ำมันมะกอก ประดิษฐ์ปั้นเป็นรูปต่างๆ ใช้สำหรับประดับหน้าเค้ก ซึ่งเข้ามาในไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (..2199-2231)  โดยผู้นำเข้ามาคือ มาดามดอนญา มาเรีย กิอูมาร์ เดอ ปินา  หรือที่รู้จักกันในนาม ท้าวทองกีบม้า (เพี้ยนเสียงจาก ‘กิอูมาร์’โดยได้นำถั่วเขียวมาใช้แทนเม็ดอัลมอนด์ กลายเป็นขนมลูกชุบ ซึ่งการทำลูกชุบมักนิยมทำภายในวัง เพื่อรับประทาน และมอบให้แก่เด็กๆในช่วงเทศกาลสำคัญ

วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560


ข้าวเหนียวมะม่วง

ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นขนมหวานไทยยอดนิยม และจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในฤดูร้อน ทำจากข้าวเหนียว เช่น ข้าวเหนียวเขี้ยวงู มูนกับหัวกะทิ เกลือป่น และน้ำตาลทรายขาว แล้วกินกับเนื้อมะม่วงสุก ที่นิยมคือ มะม่วงอกร่อง และมะม่วงน้ำดอกไม้ อาจราดกะทิ และโรยถั่วบางชนิด แล้วแต่ชอบใจ


ขนมไทย...ทับทิมกรอบ

ขนมทับทิมกรอบ เป็นขนมหวานแบบไทย ทับทิมกรอบเป็นขนมหวานที่รับประทานได้ทุกฤดูกาล นิยมมากที่สุดในฤดูร้อน รับประทานแล้วหอมหวานเย็นอร่อยชื่นใจคลายร้อนได้ดี ประกอบด้วยเม็ดทับทิมกรอบสีแดงสดใสและเม็ดทับทิมกรอบสีชมพูสวย เมื่อเคี้ยวแล้วกรอบมันด้วยรสชาติของแห้ว มีน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทราย ลอยด้วยดอกมะลิ มีกะทิสดจากการคั้นมะพร้าว น้ำแข็งบดละเอียดหรือน้ำแข็งทุบให้เป็นเม็ดเล็ก ๆ รสชาติหอมชื่นใจ

ขนมไทย...ลอดช่องไทย

ลอดช่อง.. .เป็นขนมไทยแท้โบราณชนิดดั้งเดิม โดยที่ใครๆพากันคิดว่ามันคือขนม ที่มาจากเกาะสิงคโปร์นู้นแต่แท้จริงแล้วต้นกำเนิดไม่ได้มาจากประเทศสิงคโปร์ แต่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยเรานี่เอง ที่ได้นำแป้งมันสำปะหลังมาปั้น และนวดให้เหนียว รับประทานกับกะทิสด และน้ำเชื่อม น้ำแข็งป่น ก็เพิ่มความสดชื่นให้กับผู้บริโภคได้แล้ว แต่หลายคนคงสงสัยว่าแล้วคำว่า สิงคโปร์ล่ะ มาจากไหน ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันจนติดปาก ถึงบริเวณที่ตั้งร้านนี้ ที่เป็นเจ้าแรก ในการทำ ลอดช่องสิงคโปร์” นั่นเอง หากย้อนไปเมื่อประมาณ 60 ปีก่อน ร้านนี้บังเอิญไปตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงภาพยนต์สิงคโปร์ (เดิม) หรือโรงหนังเฉลิมบุรี บนถนนเยาวราช และเมื่อลูกค้าจะไปทานก็มักจะเรียกว่า ไปทานลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์” สุดท้ายก็เรียกให้สั้นลงว่า ลอดช่องสิงคโปร์” แทน